
แบตเตอรี่รถยนต์ คือหนึ่งชิ้นส่วนหลักในการทำงานของระบบรถยนต์ ที่มีการผลิตและจำหน่ายคิดเป็นมูลค่ามหาศาลหมุนเวียนอยู่ในตลาดทั่วโลก และเป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมให้กับโลกจำนวนไม่น้อย แม้ว่าในปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยจะสามารถนำตะกั่วในแบตเตอรี่เก่ากลับมาใช้ใหม่แล้วก็ตาม หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ช่วยลดในการใช้จ่ายเกี่ยวกับแบตเตอรี่ รวมไปถึงลดปริมาณขยะพิษอันเป็นที่ต้นเหตุแห่งมลภาวะด้วย
จากประสบการณ์ในการใช้งาน จะพบว่าในปัจจุบันอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ค่อนข้างสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด ตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่มีดังต่อไปนี้
1.คุณภาพของแผ่นธาตุในแบตเตอรี่
เนื่องด้วยปัจจุบันหลายบริษัทมีการนำตะกั่วจากแบตเตอรี่เก่ามาเข้ากระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ โดยผสมลงไปกับตะกั่วใหม่ในขั้นตอนการผลิตเพื่อลดต้นทุนในการผลิตลง จึงส่งผลต่อคุณภาพของแบตเตอรี่ในปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งข้อมูลสัดส่วนของวัตถุดิบที่ใช้สำหรับแบตเตอรี่แต่ละยี่ห้อ และแต่ละรุ่น จะแตกต่างกันไปและเป็นความลับของแต่ละบริษัท จึงค่อนข้างยากต่อการตรวจสอบและเปรียบเทียบคุณภาพ ในการเลือกใช้งานจึงอาจต้องใช้ประสบการณ์ตรงจากการใช้งานจริง
2.การเตรียมแบตเตอรี่ใหม่ก่อนการใช้งาน
เนื่องจากแบตเตอรี่ที่เตรียมจำหน่ายตามร้านจะถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบไม่อัดประจุไฟ การเตรียมแบตเตอรี่ที่ไม่ถูกต้องและการนำไปใช้ทันทีโดยที่ไม่ประจุไฟก่อนจะส่งผลต่อการใช้งานแบตเตอรี่โดยตรงในระยะยาว
ขั้นตอนวิธีการเตรียมใช้งานแบตเตอรี่ใหม่
- นำแบตเตอรี่ออกจากกล่อง สำหรับแบตฯแห้ง และกึ่งแห้ง สามารถข้ามไปอ่านในขั้นตอนถัดไปได้เลย สำหรับแบตฯน้ำให้เปิดฝาช่องเติมกลั่นแล้วเติมน้ำกรดสำหรับแบตเตอรี่(ซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายแบตฯ) จนถึงระดับที่กำหนดให้ครบทุกช่องแล้วปิดฝา ปล่อยแบตทิ้งไว้อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้เกิดการทำปฏิกิริยาระหว่างแผ่นตะกั่วและน้ำกรดอย่างสมบูรณ์
- ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอัตรากระแสไม่เกิน 10% ของความจุแบตเตอรี่ เช่น แบตเตอรี่ขนาด 70 Ah ควรชาร์จด้วยกระแสเริ่มต้นที่ 7 แอมป์ต่อชั่วโมงและค่อยๆลดลงเรื่อยๆจนแบตเตอรี่เต็ม (หรือเลือกใช้เครื่องชาร์จ-ฟื้นฟูแบตเตอรี่ แบบอัตโนมัติ 8 ขั้นตอน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน) ในขั้นตอนนี้มีส่วนสำคัญต่อแบตเตอรี่มากเนื่องจากในการชาร์จครั้งแรกจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในระยะยาว ซึ่งการชาร์จด้วยกระแสต่ำจะใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน แต่ในขณะที่ร้านแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องชาร์จที่จ่ายกระแสสูงเพื่อความรวดเร็วในธุรกิจ ความต้องการจึงขัดแย้งกัน ในขั้นตอนนี้จึงแนะนำให้นำแบตเตอรี่กลับมาชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ-ฟื้นฟูแบตเตอรี่ แบบอัตโนมัติ 8 ขั้นตอนด้วยตนเอง
- หลังจากชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มแล้ว ให้ถอดเครื่องชาร์จออกแล้วปล่อยแบตเตอรี่ทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 ชม. ก่อนนำมาเริ่มใช้งาน
3.ตำแหน่งของแบตเตอรี่ภายในรถยนต์
สำหรับรถยนต์ที่ออกแบบให้แบตเตอรี่อยู่ภายในห้องเครื่องยนต์จะถูกความร้อนจากเครื่องยนต์อยู่เสมอ ทำให้มีโอกาสที่อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นกว่ารถที่ออกแบบให้แบตเตอรี่อยู่ภายนอกห้องเครื่องยนต์ แต่การที่จะแก้ไขดัดแปลงเพื่อย้ายตำแหน่งแบตเตอรี่ออกมาอยู่ภายนอกห้องเครื่องยนต์เป็นเรื่องที่ไม่แนะนำและไม่คุ้มค่าต่อความเสี่ยงและโอกาสที่จะเกิดความเสียหายในด้านอื่นๆ

แบตเตอรี่อยู่ภายในห้องเครื่องยนต์ แบตเตอรี่อยู่ภายนอกห้องเครื่องยนต์
4.ลักษณะการใช้งาน
รถที่ส่วนมากจะขับใช้งานทางไกลต่อเนื่องแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานนานกว่ารถที่ขับในเมืองที่การจราจรติดขัด เนื่องจากไดชาร์จมีการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่อย่างเต็มที่ และรถขับทางไกลจะมีแนวโน้มว่ามีการระบายความร้อนภายในห้องเครื่องที่ดีกว่ารถที่ขับในเมือง

5.ความผิดปกติของไดชาร์จ
อาจเกิดได้จากความเสื่อมของตัวไดชาร์จเอง หรือพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้รถ เช่น การเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดไม่เหมาะสม การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มากเกินไปจนทำให้เสียความสมดุลของไดชาร์จและแบตเตอรี่ (สามารถตรวจสอบการทำงานของไดชาร์จได้ง่ายๆด้วย BA101 หรือ BM2)
6.การดูแลบำรุงรักษา
การดูแลบำรุงรักษาแบตเตอรี่เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ซึ่งมีวิธีการง่ายๆคือ คอยตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับปกติอยู่เสมอ และอย่าปล่อยให้แบตเตอรี่คายประจุเป็นระยะเวลานานด้วยการหมั่นชาร์จแบตเตอรี่(ด้วยอัตรากระแสไม่เกิน 10% ของความจุ หรือชาร์จด้วยเครื่องชาร์จ-ฟื้นฟูแบตเตอรี่ แบบอัตโนมัติ 8 ขั้นตอน)เป็นประจำอย่างน้อยทุกๆ 1-2 เดือน สำหรับรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ใช้งานน้อย รถที่ขับระยะทางสั้นๆ รวมไปถึงรถที่ขับในเมืองที่การจราจรติดขัด
ดังนั้นจากองค์ประกอบต่างๆข้างต้นผู้ใช้จึงควรเลือกแบตเตอรี่ใหม่ที่มีคุณภาพดี มีการเตรียมแบตเตอรี่ใหม่ก่อนการใช้งาน หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความร้อนสะสมที่ตัวแบตเตอรี่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน เลือกใช้ขนาดแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถยนต์ ไม่ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้ามากจนเกินไป และบำรุงรักษาแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน