Review : เครื่องวัดความจุเพาเวอร์แบงค์ (Power Bank Capacity Tester)

   เครื่องวัดความจุเพาเวอร์แบงค์ (Power Bank Capacity Tester) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับหาปริมาณความจุของแบตเตอรี่ที่ระดับแรงดันไฟ 5 โวลต์ ผ่านทางพอร์ต USB โดยสามารถต่อใช้งานกับอุปกรณ์ทั่วไป (เช่น สมาร์ทโฟน,แท๊ปเล็ต) หรือ Dummy Load เพื่อวัดหาความจุของแบตเตอรี่ พร้อมทั้งยังบอกแรงดัน (V) และกระแส (A) ที่ใช้ โดยแสดงผลเป็นตัวเลขผ่านหน้าจอ LCD ที่ตัวเครื่อง

ประโยชน์

1. ใช้สำหรับวัดความจุของแบตเตอรี่ภายในเพาเวอร์แบงค์

2. ใช้สำหรับวัดความจุแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ (สมาร์ทโฟน,แท๊ปเล็ต,GPS ฯลฯ)

3. ใช้สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพ,ความเสื่อมของแบตเตอรี่

คุณสมบัติ

- สามารถทดสอบได้ที่ระดับแรงดัน 3-7 V

- สามารถทดสอบได้ที่ระดับกระแส 0.05-3.5 A

- สามารถทดสอบความจุได้ถึง 19,999 mAh

- สามารถเก็บบันทึกข้อมูลได้สูงสุด 10 ชุด

การอ่านค่า และปุ่มตั้งค่า

   หน้อจอแสดงผลจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังภาพ

    ปุ่มตั้งค่า

1. ใช้รีเซ็ตข้อมูลเก่า เพื่อเตรียมการเก็บข้อมูลใหม่

- กดปุ่มค้างไว้ 3 วินาที จะเป็นการรีเซ็ตค่าของชุดข้อมูลถัดไป พร้อมทั้งเริ่มการบันทึกข้อมูล

2. ใช้สำหรับเลือกดูชุดข้อมูลเก่า หรือต้องการเก็บบันทึกข้อมูลต่อเนื่องในชุดข้อมูลเก่า

- กดปุ่มติดกัน 2 ครั้ง ไฟที่หน้าจอจะกระพริบ จากนั้นกดปุ่ม 1 ครั้ง จะเป็นการเลื่อนไปยังข้อมูลชุดถัดไป หลังจากเลือกชุดข้อมูลที่ต้องการได้แล้ว ให้กดปุ่มติดกัน 2 ครั้ง จะเป็นการเลือกใช้งานชุดข้อมูลนั้นๆ

วิธีการใช้งาน Power Bank Capacity Tester เพื่อหาค่าความจุของเพาเวอร์แบงค์

   แบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ

- กรณีที่ใช้งานร่วมกับ USB Dummy Load (เป็นอุปกรณ์เสริมต้องซื้อเพิ่ม) วิธีนี้จะมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน และได้ค่าที่ค่อนข้างแม่นยำกว่า เนื่องจากทำการทดสอบเพียงครั้งเดียวจนแบตเตอรี่ของเพาเวอร์แบงค์หมด

- กรณีใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ทั่วไป (Smartphone , Tablet) วิธีนี้จะมีความซับซ้อนยุ่งยาก และมีโอกาสที่ค่าที่ได้จะเกิดความผิดพลาดค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องทำซ้ำหลายครั้งจนกว่าแบตเตอรี่ของเพาเวอร์แบงค์จะหมด

   โดยแต่ละวิธีมีขั้นตอนที่แตกต่างกันดังนี้

- การใช้งานร่วมกับ USB Dummy Load มีขั้นตอนดังนี้

1. เพาเวอร์แบงค์ที่จะนำมาทดสอบ ทำการชาร์จไฟจนเต็มแล้ว

2. นำเครื่องวัดความจุเสียบเข้าไปที่เพาเวอร์แบงค์ แล้วเปิดสวิทช์ที่เพาเวอร์แบงค์

3. กดปุ่มตั้งค่าที่เครื่องวัดความจุค้างไว้ประมาณ 3 วินาที เพื่อรีเซ็ตค่า

4. นำ USB Dummy Load มาเสียบเข้าที่เครื่องวัดความจุเพื่อจำลองการชาร์จ ไฟ LED แสดงสถานะที่ตัว USB Dummy Load จะสว่างขึ้น

5. ตัวเครื่องวัดจะทำการอ่านและบันทึกค่ากระแสไฟที่ไหลผ่านจากตัวเพาเวอร์แบงค์ไปยัง USB Dummy Load

6. รอจนกว่าแบตเตอรี่ของเพาเวอร์แบงค์จะหมด

7. หลังจากแบตเตอรี่ของเพาเวอร์แบงค์หมดแล้ว ไฟแสดงผลที่ตัวเครื่องวัดจะดับลง ให้ทำการถอดสายอุปกรณ์ทั้งหมดออก

8. นำเครื่องวัดความจุไปเสียบกับช่อง USB ของคอมพิวเตอร์เพื่อทำการอ่านค่าที่บันทึกได้

- การใช้งานกับอุปกรณ์ทั่วไป (Smartphone , Tablet) มีขั้นตอนดังนี้

1. เพาเวอร์แบงค์ที่จะนำมาทดสอบ ทำการชาร์จไฟจนเต็มแล้ว

2. นำเครื่องวัดความจุเสียบเข้าไปที่เพาเวอร์แบงค์ แล้วเปิดสวิทช์ที่เพาเวอร์แบงค์

3. กดปุ่มตั้งค่าที่เครื่องวัดความจุค้างไว้ประมาณ 3 วินาที เพื่อรีเซ็ตค่า

4. นำสมาร์ทโฟน,แท๊ปเล็ต มาเสียบเข้าที่เครื่องวัดความจุเพื่อทำการชาร์จ

5. ตัวเครื่องวัดจะทำการอ่านและบันทึกค่ากระแสไฟที่ไหลผ่านจากตัวเพาเวอร์แบงค์ไปยังอุปกรณ์

6. หลังจากชาร์จสมาร์ทโฟน,แท๊ปเล็ต จนแบตเตอรี่เต็มแล้ว

6.1) ปิดเพาเวอร์แบงค์

6.2) นำสมาร์ทโฟน,แท๊ปเล็ตไปใช้งานจนแบตเตอรี่หมด

6.3) นำกลับมาชาร์จผ่านเครื่องวัดใหม่ ทำซ้ำข้อ 6 ไปเรื่อยๆจนกว่าแบตเตอรี่ของเพาเวอร์แบงค์จะหมด

7. หลังจากแบตเตอรี่ของเพาเวอร์แบงค์หมดแล้ว ไฟแสดงผลที่ตัวเครื่องวัดจะดับลง ให้ทำการถอดสายอุปกรณ์ทั้งหมดออก

8. นำเครื่องวัดความจุไปเสียบกับช่อง USB ของคอมพิวเตอร์เพื่อทำการอ่านค่าที่บันทึกได้

วิธีการใช้งาน Power Bank Capacity Tester เพื่อหาค่าความจุของอุปกรณ์ (ใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกชนิดที่ชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB เช่น สมาร์ทโฟน,แท๊ปเล็ต,GPS ฯลฯ)

1. อุปกรณ์ที่จะนำมาทดสอบต้องทำการใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง (เพื่อผลที่แม่นยำเมื่อกดสวิทช์เปิดเครื่องแล้วจะต้องไม่สามารถบูตเครื่องได้)

2. นำเครื่องวัดความจุเสียบเข้าไปที่เพาเวอร์แบงค์ หรือเสียบเครื่องชาร์จโดยตรงเลยก็ได้

3. กดปุ่มตั้งค่าที่เครื่องวัดความจุค้างไว้ประมาณ 3 วินาที เพื่อรีเซ็ตค่า

4. นำอุปกรณ์ที่ต้องการทดสอบมาเสียบเข้าที่เครื่องวัดความจุเพื่อทำการชาร์จ

5. ตัวเครื่องวัดจะทำการอ่านและบันทึกค่ากระแสไฟที่ไหลผ่านไปยังอุปกรณ์

6. หลังจากชาร์จอุปกรณ์จนแบตเตอรี่เต็มแล้ว

7. ทำการอ่านค่าที่บันทึกได้